เขียนบน Website ของสมาคมสถาปนิกสยาม (www.asa.or.th) เริ่มต้นเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2003
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ปี 1911. เป็นช่วงเวลาที่อบอุ่นในฤดูใบไม้ผลิ ของ มหานคร New York เมื่อเวลาประมาณ 4:45PM พนักงานของโรงงานเย็บเสื้อ Triangle Shirtwaist ที่ตั้งอยู่บน 3 ชั้นบนสุดของ อาคาร 10 ชั้น ชื่อ Asch ที่ตั้งอยู่ ณ จคุรัส Washington กำลังจะเก็บข้าวของเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน พนักงาน ราวๆ 2-300 คนของโรงงานนี้ส่วนใหญ่เป็นหญิงสาววัยรุ่น และส่วนมากเป็นแรงงานอพยพที่พูดภาษาอังกฤษได้น้อยมาก ณ วินาทีนั้น บนชั้น 8 พนักงานคนหนึ่งได้ร้องตะโกนว่า “ไฟไหม้ ไฟไหม้”
เปลวไฟนั้นเห็นได้ชัดออกมาจากกองเศษผ้า ที่อยู่ระหว่างจักรเย็บผ้าแถว 1 และ 2 ของพื้นอาคารขนาด 30 X 30 เมตร พนักงานชาย William Bernstein พยายามที่จะดับไฟด้วยน้ำที่รองจากก็อกแต่ก็เป็นไปอย่างเชื่องช้า และในชั่วพริบตานั้น ไฟก็ได้ลามไปยังลายผ้าที่แขวนไว้ทั่วทั้งชั้นอย่างรวดเร็ว เสียงตะโกนร้อง “ไฟไหม้ๆ นั้นดังไปทั่วทั้งชั้น” ท่ามกลางควันอันหนาทึบ พนักงานผู้ชายที่มีจำนวนน้อย ยังคงพยายามที่จะใช้น้ำเพื่อดับไฟ แต่ไฟก็ลามไปอย่างรวดเร้วกว่ามาก ติดไปที่ โต๊ะ บัวพื้นและฝ้าเพดานที่ทำจากไม้ ผนังเบา และ ฝ้าเพดาน ทันใดนั้น พนักงานเอกสารคนหนึ่งสามารถ ลากท่อน้ำฉีดดับเพลิงเข้ามาในชั้นได้ แต่ทว่า เมื่อเปิดออก น้ำกลับไม่มีออกมา - เนื่องจากขาดแรงดันน้ำ.
ในขณะเดียวกัน พนักงานหญิงทั้งหมด ด้วยความตระหนกสุดขีด ก็แออัดยัดเยียดกันเข้าไปในบันได้หนีไฟ ที่สร้างอยู่ข้างอาคารถายนอก ด้านถนน Washington Place เห็นได้ชั้นเจนจากผู้คนด้านล่าง Dinah Lifschitz เป็นพนักงานที่ประจำอยู่บนชั้นที่ 8 เล่าภายหลังว่า “ดิฉันโทรศัพท์ขึ้นไปที่ห้องอำนวยการบนชั้น 10 - Mary Alter เป็นผู้ที่รับสาย ฉันพยายามจะบอกเธอให้บอก ผู้จัดการ Blanck ว่า มีไฟไหม้อยู่ที่ชั้น 8 นี่” “จากนั้นดิฉันก็พยายามจะต่อสายไปยังชั้น 9 แต่ไม่มีใครตอบเลย ถายใน 2- 3 นาทีต่อมา บนชั้น 8 นั้นก็เหลือเพียง Dinah Lifschitz และ Samuel Bernstien 2 คน Bernstien บอกให้ Dinah รีบหนีทางบันไดหนีไฟด้าน Washington Place ส่วนตัวเขานั้น วิ่งฝ่าเปลวเพลิงไปยัง อีกด้านหนึ่งของตึกซึ่งเป็นด้านถนน Green Bernstien วิ่งขึ้นไปจนถึง ชั้นเก้า แต่กลุ่มควันและเปลวเพลิงนั้นหนามากจนเขาเข้าไปไม่ได้ เขาวิ่งต่อขึ้นไปบนชั้นที่ 10 และพบกับกลุ่มพนักงานหญิงที่กำลัง วิ่งไปมาอย่างโกลาหล พนักงานบางคนโชคดีที่ลงลิฟต์ไปชั้นล่างได้ก่อน แต่แล้วเมื่อลิฟต์หยุดทำงาน ทางที่จะหนีให้พ้นเปลวเพลิงมี อีกทางเดียวคือทางชั้นดาดฟ้า Joseph Flecher พนักงานบัญชีได้เล่าภายหลังว่า “ผมเห็นเด็กผู้หญิงพนักงานของเรา ตกตึกลงไป ปะทะ พื้นถนนแล้วก็แน่นิ่งไป”
เหนือชั้นดาดฟ้า ขึ้นไป 4.5 เมตร ณ อาคารที่อยู่ด้านข้าง ศาสตราจารย์ Frank Sommer กับ ที่กำลังสอนหนังสือให้กับ นักศึกษา คณะนิติศาสตร์ ของมหาวิทยาลัย New York ได้สังเกตุเห็น พนักงานจำนวนมากของ Triangle Shirtwast กำลังร้องขอความช่วยเหลืออยู่บนชั้นดาดฟ้า แล้วจึงเรียกนักศึกษาให้ไปนำบันไดของช่างทาสี ต่อไปยังตึกด้านข้างเพื่อรับพนักงานทั้งหมดข้ามมา พนักงานหญิงคนสุดท้ายที่ช่วยไว้ได้นั้น หมดสติเพราะสำลักควัน นักศึกษากฎหมายต้องหามเธอข้ามบันได้มาอย่างทุลักทุเล สุดท้าย บนนรกไฟ ชั้น 9 ซึ่งกำลังจะคร่าชีวิตพนักงาน 145 คนนั้น เป็นพื้นที่ที่ เพลิงได้ตัดทางออกทั้งหมดไป พนักงานที่ตั้งสติได้รวดเร็วและมีปฎิกริยาที่ฉับไว นั้นสามารถลงทางบันไดด้านถนน Green ได้ก่อนที่บันได้จะพังลงมา หรือไม่ก็เบียดเข้าไปในลิฟต์ซึ่งหยุดทำงานไปโดยปริยายเมื่อเพลิงใหม้ พนักงานหญิงคนสุดท้ายที่รอดชีวิตมาได้จาก ไฟนรกบนชั้น 9 คือ Katie Weiner ผู้ซึุ้งโรยตัวลงมาตามลวด เคเบิลของลิฟต์ ซึ่งก่อนหน้านั้นก็มีคนกระโดดลงไปบน หลังคาของลิฟต์ในช่องลิฟต์เปล่าๆนั้น อีกหลายคน และทั้งหมดก็รอดมาจนถึงพื้นดินได้ แต่ก็เพราะเหตุนั้น ที่ลวด Cable หมดสภาพ ทำให้ลิฟต์ไม่สามารถทำงานได้อีก
และสำหรับพนักงานที่เหลืออีก 145 คนที่เหลือนั้น ทางเลือกมีอยู่เพียง 2 ทางคือ ตายในกองเพลิงหรือเสี่ยงกระโดดออกทางหน้าต่าง แน่นอนว่า มีหลายคนที่ตัดสินใจกระโดด และ นั่นคือช่วงเวลาที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดครั้งหนึ่งในมหานคร New York กับภาพที่ทุกคนบนถนน เห็นหญิงสาวต่างด้าวเหล่านี้ กระโดดลงมาจบชีวิตอย่างน่าอนาถทีละคน บนพื้นถนน จริงๆแล้ว การตอบสนองของพนักงานดับเพลิงในยุคนั้นก็ถือว่า อยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยมมาก เพลิงถูกควบคุมไว้ในเวลาเพียง 18 นาที เท่านั้น และ ใช้เพิ่มอีก 10 นาทีในการตรวจสอบก่อนที่จะประกาศอย่างเป็นทางการว่า เหตุการเพลิงไหม้ได้ยุติลงแล้ว ภาพที่เหลืออยู่คือ ศพที่เปียกปอนจากน้ำดับเพลิงประมาณ 30 ศพที่อยู่บนท้องถนน คณะแพทย์ที่เดินทางมาอย่างเร่งด่วน พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะหาสัญญาณของผู้ที่อาจจะยังมีชีวิตอยู่แต่ก็ไม่พบ ตำรวจเองก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ให้ฝูงชนซึ่งเต็มไปด้วยญาติของผู้ที่เสียชีวิตเข้าไปรบกวนการทำงานของแพทย์ แต่แล้ว กลุ่มที่ต้องทำงานกันอย่างจริงจังก็คือ พนักงานเก็บศพซึ่งขนศพทั้งหมดใส่โลงไปไว้ที่นิติเวชชั่วคราว บนถนน East Twenty Sixth พนักงานดับเพลิงเองก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะหาผู้รอดชีวิตบนชั้น 9 แต่สิ่งที่ได้พบ
จากคำบอกเล่าของ ผู้กำกับ Edward Croker คือ “ศพที่ไหม้จนถึงกระดูก กระโหลกที่แนบอยู่กับจักรเย็บผ้า” ไม่สามารถบอกจำนวนได้แน่นอนจากสภาพที่พบเห็น แต่จาการตรวจสอบรายชื่อของพนักงาน น่าจะมีทั้งหมดประมาณ 115 คนที่เสียชีวิตจากเพลิงบน ชั้น 9 นี้ อีก 4 ชั่วโมงให้หลัง ผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายที่ติดอยู่ใต้ลิฟต์ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำจากการดับเพลิงก็ได้ถูกช่วยออกมา
การค้นหาผู้รับผิดชอบ ภายในเวลา 2 วันหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ของทางนคร New York ได้ทำการสรุปเบื้องต้นเกี่ยวกับสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ ผู้ตรวจการอัคคีภัย (Fire Marshall) William Beers ได้กล่าวว่า ต้นเพลิง น่าจะมาจากไม้ขีดไฟที่ไม่ได้ดับสนิท และถูกโยนเข้าไปใน ถังน้ำมันตะเกียงที่ยังมีน้ำมันตกค้างอยู่ ซึ่งอยู่ตรงบริเวณจักรเย็บผ้าเครื่องที่ 2 ใกล้ประตูหนีไปที่อยู่ทางด้าน Green Street (นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ทางหนีไฟใช้การไม่ได้) นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าจะมีนโยบายห้้ามสูบบุหรี่ในอาคาร แต่ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ได้ค้นพบก้นบุหรี่มากมาย พนักงานเย็บผ้าของบริษัทรายงานเสริมว่า การสูบบุหรี่เป็นเรื่องปกติในที่นี้ รายงานที่เป็นจุดหักเหของเรื่องทั้งหมดคือรายงานของผู้กำกับ William Croker ว่า ประตูที่เปิดจากทางหนีไฟไปสู่บริเวณเย็บผ้านั้น ถูก Lock จากด้านนอก ตอนที่ทำการดับไฟนั้น พนักงานดับเพลิงต้องตัดกุญแจออกจึงจะเข้าไปได้
หลายๆฝ่ายได้กล่าวโทษ New York City Building Department (แผนกตรวจสอบอาคารและสิ่งก่อสร้าง) ถึงความไม่เอาใจใส่ ในการตรวจสอบความปลอดภัยของโรงงาน Triangle Shirtwaist. อัยการ (District Atorney) Charles Whitman ได้ให้คำมั่นว่า ทางนคร New York จะทำการสืบสวนโดยละเอียดอีกครั้ง ว่าทาง Building Department เคยได้ทำการตรวจสอบอาคารหลังนี้อย่างจริงจังมาก่อนหรือไม่ หนังสือพิมพ์บางฉบับที่มีข้อมูลและสามารถติดต่อสถาปนิกผู้เชี่ยวชาญ เรื่องกฎหมายอาคารได้ ก็นำเสนอข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือ “บันได้ที่ใช้การได้จริงมีอยู่ทางเดียว ซึ่งก็คือทางด้านถนนWashington Place, ซึ่งไม่เป็นไปตามกฎหมายอย่างแน่นอน และ Building Department ก็ต้องเป็นผู้ผิดเหมือนกับคนอื่นๆ ที่มีส่วนร่วม ในเหตุการณ์อันน่าเศร้าสลดครั้งนี้” ทาง Borough President (อาจจะแปลได้ว่า ผู้ว่าการเขต New York City มี 5 เขต) ออกมากล่าวปกป้อง Building Department ที่อยู่ในส่วนบริหารของตนเองทันทีว่า “สื่อไม่ให้ความยุติธรรมกับเราเลย จากแบบสถาปัตย์ที่ส่งมานั้น อาคารหลังนี้ เป็นไปตามมาตรฐานทุกอย่าง แต่ที่เราไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้อย่างทั่วถึงนั้น เป็นเพราะว่า ทาง Department นั้น ขาดกำลังคนและงบประมาณมาหลายปีแล้ว และเป็นเรื่องสุดความสามารถที่จะตรวจสอบอาคารทุกอาคารใน New York ได้อย่างละเอียด”
การเรีัยกร้องให้หาผู้กระทำิผิดมาลงโทษนั้น มีมากขึ้นเรื่อยๆ บาทหลวง Charles Slattery พระอธิการของ โบสถ์ที่อยู่ห่างจาก ที่เกิดเหตุไปไม่กี่ Block นั้น ได้กล่าวกับสมาชิกในโบสถ์วันหนึ่งว่า “ในเร็วๆนี้อาจะะมีการค้นพบว่า คนโลภบางคนนั้น เห็นแก่กำไรเพียงเล็กน้อยมากกว่า ความปลอดภัยในชีวิตของคนงาน” ในขณะเดียวกัน ก็มีการชุมนุมบนท้องถนนในวันที่ 4 หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ ผู้ที่ชุมนุมส่วนมากเป็นญาติของผู้ตาย เหตุการณ์ชุมนุมเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้อง และน้ำตาของความสูญเสีย มีคนจำนวนมากร้องไห้จนหมดสติ ทางโรงพยาบาลประจำนครต้อง ทำการบำบัดคนไข้ ประมาณ 50 คน หนังสือพิมพฺ์เองก็ประโคมข่าว ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง “ความตายของผู้คนเหล่านี้ มาจากความเห็นแก่ได้ของเจ้าของโรงงานที่ไม่คิดจะติดตั้งทางหนีไฟให้มีคุณภาพ” ที่ Cooper Union ซึ่งเป็นแหล่งชุมนุมและติดป้ายประกาศข่าวสารมากมายในสมัยนั้น ก็ได้มีการ ขึ้นป้ายประท้วง “ประตูที่ถูกปิดตาย, ความแออัดในโรงงาน, ทางหนีไฟที่ไม่มีคุณภาพ เป็นสิ่งที่ไม่ควรมีอยู่ เราต้องการให้ผู้หญิงเหล่านี้มีสิทธิ์ในการปกป้องคุ้มครองตนเอง” และทางกองกำกับการดับเพลิงก็ได้มีการแถลงอย่างเป็นทางการต่อมาว่า “ถ้าพนักงานในโรงงานที่ไหนใน New York พบเห็นทางหนีไฟถูกปิดตาย หรือเสื่อมโทรม ไม่ได้คุณภาพ ขอหยุดทำงานและ ให้แจ้งทางการทราบทันที”
เป็นที่แน่นอนว่า เป้าโจมตีของสาธารณะชนนั้น ตกมาอยู่ที่ เจ้าของโรงงาน Isaac Harris และ Max Blanck ซึ่งเป็นหุ้นส่วนกัน ทั้ง Harris และ Blanck นั้นได้เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในวงการธุรกิจ ได้รับฉายาว่าเป็น Shirtwaist King (Shirtwaist คือเสื้อรัดรูปแขนยาวของผู้หญิงที่เป็นที่นิยมมากใน ต้น ศตวรรษที่ 20) ทั้ง 2 เป็นเจ้าของโรงงานทำ Shirtwaist ที่ใหญ่ที่สุดในเมือง โรงงานนั้นถูกจัดการให้ดำเงินงานด้วยเครื่องจักรขนาดใหญ่ทีีจะจ่ายไปเชื่อมกับ จักรขนาดเล็ก อีก 240 เครื่อง เครื่องจักรเหล่านี้ถูกควบคุมด้วยช่างเทคนิค และข่างเหล่านี้จะทำการจ้าง หญิงวัยรุ่นอพยพเหล่านี้เข้ามาตัดเสื้อ อัตราค่าจ้างนั้น ขึ้นอยู่กับความพอใจของช่างเทคนิคเหล่านี้ หญิงสาวสวนใหญ่ต้องทำงานอย่างหนัก แลกกับค่าแรงถูกๆ หลายคนรับรู้ถึงความเอาเปรียบอย่างรุนแรงของเจ้าของโรงงาน และเมื่อถึงจุดหนึ่ง ในปี 1909 แรงงานหญิงเหล่านี้จึงได้ ตัดสินใจหยุดงานประท้วงเพื่อขอขึ้นค่าแรงและปรับปรุงระบบสวัสดิการ อัยการของนคร New York ให้ความสนใจกับ เรื่องนี้ และจัดให้มีการรับฟังคำี้ร้องขึ้น แต่เจ้าของโรงงาน กลับตอบโต้ด้วย การจ้างกลุ่มโสเภณีเข้าไป ทำร้ายร่างกายกลุ่มผู้ประท้วง ไม่ให้เข้าไปในศาลได้
หลังจากที่มีการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมของโรงงานแห่งนี้ กับกลุ่มโสเภณีที่ถูกจ้างมา ความไม่พอใจก็กระจายไปยังแรงงานของโรงงานอื่นๆ ทั่วเมืองทำให้เกิดการเดินประท้วงตามมาอีกหลายแห่งในเวลาเดียวกัน จนเกิดเป็นเหตุการไม่สงบในระดับหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าจัดการ ทำให้มีผู้ถูกจับกุมไป 723 คน แต่เนื่องจากความกดดันจากหนังสือพิมพ์และสาธารณะชน ทำให้ทั้งหมดถูกปล่อยตัวไปในระยะเวลาอันรวดเร็ว และหลังจากนั้นประมาณ 13 สัปดาห์ การหยุดงานประท้วงก็จบลง พร้อมกับการตกลงขึ้นค่าแรง 12-15 % และให้จำกัดเวลาทำงานต่ออาทิตย์ไว้ที่ 52 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ๋นี้ก็แสดงให้เห็นทัศนะคติของเจ้าของโรงงานที่ไม่สนใจในสวัสดิภาพและสวัสดิการของลูกน้องแต่อย่างใด สองอาทิตย์หลังจากเหตุการไฟไหม้ ทาง Grand Jury ก็ได้ ฟ้องร้อง เจ้าของบริษัททั้ง 2 คนในข้อหา Manslaughter
(ขออธิบายระบบยุติธรรมใน อเมริกาสักหน่อยคือว่า ใครที่เคยดูหนัง Hollywood ที่เกี่ยวกับนักกฎหมายคงจะทราบว่าที่ อเมริกานั้น ระบบศาลจะประกอบไปด้วย 4 ฝ่ายคือ 1. โจทก์ 2. จำเลย (แต่ละฝ่ายมีทนายของตัวเอง) 3. ผู้พิพากษาและ4. คณะลูกขุน (Jury) ซึ่งประกอบไปด้วยบุคคลสัญชาติอเมริกัน 12 คน ลูกขุนจะเป็นผู้ที่รับฟังการ ดำเนินการในศาลฝ่านการควบคุมของ ผู้พิพากษา ซึ่งทำตัวเหมือนกับโฆษกของศาล ซึ่งจะอนุญาติให้ฝ่ายหนึ่งพูด หรือหยุดพูด หรือจะให้หลักฐานชิ้นไหนเข้าหรือออกจากคดี ให้พยานคนไหนพูดหรือไม่พูด หรือแม้แต่ให้ลูกขุนเพิกเฉยต่อ คำพูดหลักฐานใดๆก็ได้ อำนาจของผู้พิพากษานั้นเด็ดขาดมาก ยกเว้นแต่ว่า จะไม่มีสิทธิตัดสินคดีว่า จำเลยมีความผิดหรือไม่ ลูกขุนเท้านั้นที่จะมีสิทธิตัดสิน และหากมีความผิด จะต้องเป็นการ Vote เป็นเอกฉันท์ของทั้ง 12 คนเท่านั้น ถ้าคนใดคนหนึ่งไม่เห็นด้วย จะถึอว่าเ็ป้น Mistrail หรือว่า เป็น โมฆะ ต้องเริ่มพิจารณา คดีใหม่ หาลูกขุนกลุ่มใหม่ สำหรับ Manslaughter นั้นคือข้อหาที่ เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมหรือการใช้ความรุนแรงทางกำลังทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บหรือถึงแ่ก่ชีวิต ตามลำดับความรุนแรงของคดีนั้น ใน ระบบ ศาลอเมริกันแบ่งออกเป็น 4 ระดับคือ 1. Murder One (Murder in the First Degree) - เป็นระดับที่รุนแรงที่สุด คือฆ่าโดยพยายามไตร่ตรองไว้ก่อน หรือวางแผนมา ด้วยสาเหตุจากความโลภ หรือความเหี้ยมโหดส่วนบุคคลก็ตาม 2. Murder Two (Murder in the Second Degree) - เป็นระดับที่รุนแรงรองลงมา คดีที่อยู่ในกลุ่มนี้คือการฆ่าโดยที่ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน ฆ่าด้วยอารมณ์ชัววูบ หรือการปล้นที่ลามไปจนถึงการทำร้ายคน ทำให้คนบาดเจ็บแล้วตายไป เป็นต้น คดีืีที่จะอยู่ใน กลุ่ม Murder คือคดีที่มีผู้เสียชีวิต หรือศพ เท่านั้น ถ้ามีเพียงผู้บาดเจ็บ ก็๋อาจจะตกอยู่ใน Attempted Murder (พยายามฆ่า) ซึ่งก็จะเข้าข่าย Manslaughter 1 3. Manslaughter 1 - เป็นคดีทีจำเลยเป็นต้นเหตุทั้งทางตรงและทางอ้อม ของการบาดเจ็บและเสียชึวิต เช่น ละเลยไม่เอาใจใส่ระบบรักษาความปลอดภัยต่อบุคคลใน องค์กรของตน หรือการที่เห็นคนที่กำลังจะเสียชึวิต แ่ต่ปล่อยให้ตาย ไม่พยายามช่วยเหลือ 4. Manslaugher 2 - ส่วนมากเป็นคดีทำร้ายร่างกายธรรมดา ที่เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ โทษเบาบางมาก และไม่ค่อยจะเป็นเหตุการที่ถึงชีวิต สำหรับคดี Triangle Shirtwaist นี้ จำเลยตกไปอยู่ในกลุ่ม Manslaughter 1 )
“วันขึ้นศาล”
การพิจารณา คดี Triangle Shirtwaist จำเลยได้แก่ Harris และ Blanck นั้น เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ปี 1911 ภายใต้การควบคุมของผู้พิพากษา Thomas Crain. Harris และ Blanck นั้น ได้จ้างทนายที่มีชีือเสียงมากที่สุดคนหนึ่งของ New York ชื่อ MaX D. Steuer. และสำหรับฝ่ายโจทก์ (อันนี้เป็นคดี อาญา ทางรัฐเป็นโจทก)์ นำโดย อัยการ หรือ เรียกว่า District Attorney – Charles S. Bostwick (ขอแทรกเรื่องความสามารถของทนายความ ที่ว่าทนายสักคนในอเมริกานั้น เป็นทนายที่เก่ง และเรียกค่าตัวได้ แพงนั้น สาเหตุก็มาจากระบบลูกขุนนั่นเอง ลูกขุนคือคนธรรมดา 12 คนที่เข้ามานั่งฟังฝ่ายโจกท์ แสดงหลักฐานมัดตัวจำเลย และทยานจำเลยแสดงหลักฐานว่าฝ่ายจำเลยบริสุทธฺ์ผุดผ่อง ทนายจำเลยที่เก่งคือทนายที่สามารใช้กลเม็ดเด็ดพราย หลอกล่อลูกขุน และผู้่พิพากษาให้เอาใจมาเป็นพวกของตน ให้เห็นใจจำเลย และเชื่อว่า จำเลบบริสุทธิ์ เพื่อให้การ vote ในครั้งสุดท้ายออกมาเป็น Not Guilty หรือ ไม่ผิด ดังนั้น ทนายจำเลยที่มีความสามารถ (ที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่) คือทนายที่ไม่เคยแพ้่คดี หรือทำให้จำเลย หลุดได้ทุกครั้ง ไม่ว่าจำเลยจะผิดหรือไม่ก็ตาม ทนายที่ไปถึงระดับนี้ได้ ก็จะเรียกค่าตัวได้แพง เนื่องจากใครๆก็ยินดีจ่าย เพื่อว่าตัวเองจะไม่ต้องหลุดคุก ได้ - ปัจจุบัน สำนักงานทนายความในอเมริกาบางแห่ง Charge ลูกค้า ชั่วโมงละ $1200 คิดเอาเองเล่นๆ ว่า ดุเดือดขนาดไหน)
เป็นอันว่า ทางเจ้าของโรงงาน Shirtwaist ได้ ทนายความเกรด A มา ซึ่งอาจจะช่วยให้เขาทั้ง 2 มั่นใจในศาล แต่ภายนอกศาลนั้น ทั้ง 2 ต้องพึ่งตำรวจนับร้อยที่มายืน ขวางฝูงชนที่ประกอบด้วยญาติมิตรของผู้ตาย ผู้ซึ่งตะโกนสาบแช่งเจ้าของโรงงานทั้ง 2 ทั้ง ขาออก และขาเข้า “ไอ้ฆาตกร” “ไปลงนรกซะ” “เอาลูกของชั้นคืนมา” ไม่เคยมีสักครั้งเดียวที่ Harris และ Blanck จะได้เดินสบายๆ เข้าไปในศาลได้ ในวันแถลงเปิดคดีนั้น อัยการ Bostwick กล่าวกับคณะลูกขุนว่า ทั้งเขาและคณะผู้ช่วยอัยการจะ พิสูจนฺ์ให้ลูกขุนเห็นว่า ประตูชั้น 9 ที่น่าจะเป็นทางออกฉุกเฉินของคนงานนั้น ได้ถูกปิดตาย ณ เวลาที่เกิดเพลิงไหม้ และนอกจากนั้น เขาสามารถพิสูจในรายละเอียดว่า ประตูนี้เป็นสาเหตุโดยตรงที่ทำให้คนงานชื่อ Magaret Schwartz อันเป็น หนึ่งใน 146 ศพนั้น เสียชีวิตในกองเพลิงอีกด้วย
อัยการ Bostwick ไ้ด้ทำการเรียกพยาน 103 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนงานหญิงสาว วัยรุ่นของโรงงาน Triangle เข้าให้การ ซึ่งคำให้การส่วนใหญ่นั้นชี้ไปใน ทิศทางที่ อัยการต้องการให้คณะลูกขุนเห็นว่า เพลิงได้ ตัดทางเดินไปสู่ทางหนีไปด้านถนน Green อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้พนักงานที่อยู่บนชั้น 9 ทั้งหมดต้องวิ่งไปที่ ประตูทางออกสู่ทางหนีไฟด้านถนน Washington ซึ่งถูกล็อคเอาไว้ พยานทั้งหมดให้การตรงกันว่า ไม่สามารถผลักประตูให้เปิดได้ Katie Weiner หนึ่งในพยานได้กล่าวว่า “ดิฉันพยายามทั้งผลักออกไป และดึงเข้ามา ประตูก็เปิดไม่ได้ แม้กระทั่งว่าเพื่อนๆ คนงานเข้ามาช่วยกัน ก็ไร้ผล” พยานส่วนหนึ่งยังให้การอีกว่า ทั้ง Blanck และ Harris นั้น ต้องการที่จะให้ประตูถูก Lock อยู่เสมอเนื่องจากเป็นการป้องกันไม่ให้ผลิตภัณฑ์ของโรงงานถูกโขมย โดยพนักงาน (โดยที่ในคำให้การของ Harris เองนั้น มูลค่าของ ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่เสียหายในวันนั้นคือ $25) ในจุดสำคัญของคดี อัยการ Botswick ใช้คำให้การของ Kate Gartman และ Kate Alterman เพื่อพิสูจน์ให้ลูกขุนเห็นว่าการที่ประตูทางหนีไฟถูกล็อคนั้น เป็นผลโดยตรงต่อความตายของ Magaret Schwartz พยานทั้ง 2 ได้ให้การว่า “พวกดิฉันที่วิ่งหนีลงมาได้ทางด้านนอกก่อนนั้น เห็น Mr. Bernstein พยายามที่จะเปิดประตูด้าน Washington Street บนชั้น 9 อยู่คนเดียว จึงเข้าไปช่วย แต่พยายามเท่าไหร่ก็เปิดไม่ออก ดิฉันทำได้เพียงแง้มประตูออกมาเล็กน้อยแต่ไม่สามารถเปิดออกทั้งหมดได้ แต่ชั้นก็เห็น Magaret อยู่ในนั้น Magaret พยายามที่จะเปิดประตูเช่นกันแต่ก็ทำไม่ได้ และเมื่อควันไฟได้ออกมาจากประตูทางด้านใน ดิฉันกับเพื่อนๆ ก็ต้องหนีลงบันใดไปและทิ้ง Magaret ให้อยู่ในนั้น แต่มือของเธอก็ลงไปอยู่ที่พื้นแล้ว ดิฉันคิดว่าเธอคงจะหมดสติ ภาพสุดท้ายที่ดิฉันเห็นคือ เรือนผมเธอที่็ติดไฟของเธอ” ในการซักค้านของฝ่ายจำเลย (Cross-Examination) นั้น ทางทนายจำเลยได้ใช้วิธีที่เหนือความคาดหมายของฝ่ายอัยการ คือ ทนายฝ่ายจำเลยให้ Kate Alterman เล่าเหตุการณ์นั้นซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ครั้งแล้ว ครั้งเล่าเกี่ยวกับ ไฟที่ชั้น 9 ผลที่ได้รับคือ เรื่องราวนั้น ออกมาเป็นอย่างเดียวกันค่อนข้างสนิด โดยใช้ภาษาแบบเดียวกัน และนี่คือการพิสูจน์ให้ลูกขุนเห็นว่า พยานของฝ่ายโจทก์นั้นได้ท่องคำให้การที่ซักซ้อมกับ ฝ่ายอัยการมาเป็นอย่างดี ราวกับว่าอัยการเ็ป็นผู้เขียนให้พูดตาม และทำให้ความน่าเชื่อถือ ของพยานนั้นลดลงเป็นอย่างมาก
พยานทางฝ่ายของจำเลยนั้น ก็มีเป็นจำนวนไม่น้อยที่ถูกเรีัยกเข้ามาเพื่อสนับสนุนฝ่ายจำเลยในแง่ของความรับผิดชอบต่อชีวิตของพนักงาน โดยทางทนายฝ่ายจำเลยได้สร้างประเด็นขึ้นมาว่า จำนวนคนงานที่ตายอยู่บนชั้น 9 นั้น เกิดขึ้นเนื่องจากว่า เพลิงได้ปิดกั้นทางไปสู่ประตูบันไดหนีไฟด้านถนน Washington Place ทำให้ผู้คนไม่สามารถหนีได้ โดยที่จริงๆแล้วประตูบานนั้นไม่ได้ถูกล็อคแต่อย่างใด พนักงานบริษัทระดับเสมียนและฝ่ายขายหลายคนที่ประจำอยู่บนชั้น 9 ได้ขึ้นให้การ แต่พนักงานเหล่านี้ที่หนีออกมาได ้ก็ไม่ได้ใช้ประตูหนีไฟบานนี้แต่อย่างใด นอกจากนี้ทนายจำเลยยังได้ May Levantini พนักงานหญิงคนหนึ่งของบริษัทที่รอดชีวิตมาจากชั้น 9 มาเป็นปากสำคัญอีกด้วย Levantini ได้กล่าวว่า กุญแจนั้น ถูกเสียบคา Lock อยู่้เสมอ และเธอก็ได้ลองเปิดประตูดูแล้ว แต่ก็พบว่ามีแต่เพลิืง และควันอยู่นอกอาคารจิงปิด และวิ่งไปที่ลิฟต์ อัยการ
Bostwick ถึงกับกล่าวประนาม Levantini ในทันทีว่า เป็นการโกหกที่ร้ายกาจ เนื่องจากว่า ถ้าเป็นเช่นที่ Levantini พูดจริงๆว่ามีไฟอยู่ในทางหนีไฟด้านถนน Washington Place จริงๆ ทำไมพนักงานมากมายจึงใช้ทางหนีไฟด้านนี้ อพยพออกจากอาคารได้โดยที่ไม่มีร่องรอยบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย Levantini นั้นไม่สามารถตอบอะไรได้ ซึ่งก็เป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของพยานฝ่ายจำเลยได้เป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน หลังจากการขึ้นให้การของพยานทุกปากเสร็จสิ้น ลูกขุนก็เริ่มกา่รประชุมเพื่อบรรลุถึงคำพิพากษา ในวันที่ 27 ธันวาคมปีเดียวกันนั้น ผู้พิพากษา Crain ได้ อ่านกฎหมายคุ้มครองแรงงานของนคร New York - Article 6, Section 8 ให้กับ คณะลูกขุนฟัง “ประตูใดๆ ที่เปิดเข้าไปสู้พิ้นที่ทำงานของโรงงานทั้งหลาย ควรจะถูกก่อสร้างให้สามารถเปิดได้อย่างเต็มที่ ในเวลาที่จำเป็น และประตูเหล่านี้ไม่ควรถูก ล็อค เชื่อม หรือ ขันน็อต ไว้ในระหว่างเวลาทำงาน” หลังจากที่อ่านจบ ผู้พิพากษาได้ย้ำถึงหน้าที่ของคณะลูกขุนว่า ขอให้ทุกๆคนได้ดูเป็นประเด็นๆ ไป หากคณะลูกขุนจะตัดสินให้จำเลยมึความผิด ประเด็นแรก จะต้องมั่นใจว่าประตูนั้นถูก Lock จริงๆ เมื่อแน่ใจในประเด็นแรกแล้ว จีงจะนำไปสู่ ประเด็นที่สอง ซึ่งคือ จะต้องมันใจว่า ทางจำเลยนั้น รู้เห็นเป็นใจกับการที่ประตูนั้นถูก Lock และสำหรับ กรณีความตายของ Magaret Schwartz นั้น ทุกคนจะต้องมั่นใจโดยไม่มีข้อกังขาใดๆเลย (Beyond Reasonable Doubt) ว่า ประตูทีู่ถูก Lock ไว้นั้น เป็นสาเหตุโดยตรงที่ทำให้เธอเสียชีวิต หลังจากที่ได้ฟังคำแนะนำของผู้พิพากษา คณะลูกขุนก็เริ่มเข้าประชุม และภายในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง คณะลูกขุนก็กลับมาพร้อมกับคำตัดสิน
เมื่อลูกขุนทั้ง 12 คนเข้านั่งที่เรียบร้อย ผู้พิพากษาก็ ก้าวออกจากประตูทางด้านหลัง บัลลังก์ “ทุกท่านโปรดยืนขึ้น” เจ้าหน้าที่ของศาลประกาศ พร้อมกับการลุกขึ้นยืนทำความเคารพผู้พิพากษา ของผู้เข้าร่วมการพิจารณาคดีทุกคน เป็นเวลาเดียวกับที่เสียงพูดคุยทั้งหมดเงียบลงทันที ผู้พิพากษา Thomas Crain ก้าวช้าๆ ขึ้นไปบนบัลลังก์ และเอ่ยถามกับตัวแทนของคณะลูกขุน “คณะลูกขุน ได้บรรลุถึงคำพิพากษาของคดีนี้หรือไม่” “เราได้คำพิพากษาแล้วครับ ใต้เท้า” เจ้าหน้าที่ของศาลจึงนำเอกสารคำพิพากษาที่มีลายเซ็นของลูกขุนทั้ง 12 คนมาให้ผู้พิพากษาผ่านตา แล้วจึงได้นำไปคืนให้กับคณะลูกขุยเพื่อประกาศอย่าง เป็นทางการอีกครั้ง “ในคดี Manslaughter in the first degree นี่ คณะลูกขุนพิจารณาว่าอย่างไร” ผู้พิพากษาถามขึ้นอย่างเป็นทางการ “เราพบว่า ทางจำเลย ‘ไม่ผิด’ ครับ ใต้เท้่า” และในทันใดนั้น เสียงร้องด้วยความโกรธแค้น ก็กระหึ่มไปทั้งห้องพิจาณาคดีโดยทันที เสียงร้องตะโกนของพ่อ เสียงร้องไห้ครวญครางของแม่ เสียงตะโกนสาปแช่งลูกขุนของญาติพี่น้องคนอื่นๆ ทำให้ห้องพิจารณาคดีตกอยู่ในสภาพโกลาหล “เงียบ ทุกคน เงียบเดี่๋ยวนี้” ผู้พิพากษาตะโกนขึ้น พร้อมกับใช้ค้อนประจำตัวเพื่อที่จะหยุดความโกลาหล แต่ก็เห็นจะไม่เป็นผลแต่อย่างใด ภายในอีกครู่เดียว คำพิพากษาก็ได้กระจายออกไปยังฝูงชนที่อยู่นอกถนน ซึ่งก็ทำให้เิกิดความโกลาหลไม่แพ้กันแต่ในระดับและขนาดที่ใหญ่กว่าข้างในศาลมาก ตำรวจที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วต้องเข้าระงับเหตุการณ์ แต่ก็นับว่าเป็นการดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บหรือถูกจับกุมแต่อย่างใด ทั้ง ลูกขุน และ จำเลยที่เป็นอิสระแล้วก็ต้องหนีออกทางประตูหลังของศาลทั้งสิ้น
ภายหลัง สมาชิกของคณะลูกขุนได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับคำพิพากษาว่า “เราแน่ใจว่าประตูถูก lock จริงๆ แต่ที่ไม่แน่ใจก็คือว่า จำเลยทั้ง 2 คน รู้เห็นเป็นใจกับการ Lock หรือเปล่า เราจึงไม่สามารถตัดสินให้ทั้งคู่มีความผิดได้” อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ คดีความอาญาจะจบไปแล้ว แต่เสียงของ หนังสือพิมพ์และสาธาณณะชนที่จะที่จะประนาม จำเลย และ ระบบยุติธรรมที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
สามปีผ่านไป เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 1914 การฟ้องร้องทางแพ่ง 23 คดี เพิ่ิอเรียกร้องเงินค่าเสียหายจากเหตุการณ์ไฟไหม้ ในครั้งนี้ต่อเจ้าของโรงงาน ก็ได้รับการตกลงในเรื่่องของจำนวนเงินเป็นที่เรียบร้อย โดยเจ้าของโรงงานยินดีที่จะจ่ายเงิน $75 ต่อ 1 ชิวิตที่เสียไป เสียงเรียกร้องที่เต็มไปด้วยความโกรธของสาธารณชนที่ที่ต่อคดีนี้
เป็นจุดที่ทางนคร New York ได้ตอบสนองโดยการแต่งตั้ง คณะกรรมมาธิการตรวจสอบโรงงาน (Factory Investigating Commission) ซึ่งมีสมาชิก 9 คนขึ้น คณะกรรมการชุดนี้จะเป็นผู้นำในการตรวจสอบ ระบบความปลอดภัย และ สถาพแวดล้อมของการทำงานในโรงงานของทั้ง New York คณะกรรมการชุดนี้ได้ทำงานต่อเนื่องกันอย่างหนัก และได้นำไปสู่จุดที่ชาว New York เรียกว่า ยุคทองของกฎฎระเบียบเกี่ยวกับโรงงานอุตสาหกรรม ภายในเวลา 3 ปี ได้มีกฎหมายฉบับปรับปรุง เกี่ยวกับ Labor Code ออกมาทั้งหมด 36 มาตรา หนึ่งในจำนวนนั้นคือกฎที่ว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับการออกแบบ สภาพแวดล้อมภายในโรงงาน ซึ่งต่อมาขยายไปในมาตรฐานของการก่อสร้างอาคารประเถทอื่นๆด้วย Frances Perkins, หนึ่งในคณะกรรมมาธิการชุดนี้ ซึ่งต่อมาได้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ของ USA ในสมัยของประธานาธิบดี Franklin D. Roosevelt ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า สิ่งที่ตามมาจากความหายนะที่เกิดขึ้นนั้น คือ คำอธิบายและจิตสำนึกที่รัฐ และประชาชนของรัฐนี้จะต้องมีต่อตัวเอง เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกที่รัฐ ได้เห็นความสำคัญ และคุณค่าของ ชีวิตทุกๆชีวิตของ 146 ชีวิตนั้น เราทุกๆคนตอบตัวเองได้ว่า เรามีส่วนร่วมในความรับผิดชอบต่อพวกเขา และพวกเธอทั้งหมด เรามีส่วนรับผิดชอบต่อการที่จะต้องยอมรับว่าเหตุการณ์อันน่าเศร้าในอาคารที่เราไม่น่าจะอนุญาติให้สร้า่งได้นั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้่ว และแก้ไขไม่ได้ ด้วยความสำนึกผิดอันนี้ ทำให้เราทุกคนสามารถรวมตัวกัน เพื่อที่จะผลิตบทบัญญัติทางกฎหมาย ที่จะป้องกัน ไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก และนั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นของ อนาคตที่จะเชี่อมโยงความสัมพันธของ์พี่น้องผู้ใช้แรงงานทุกๆคนในประเทศที่ยิ่ง ใหญ่ของเรา
เหตุการณ์ไฟไหม้โรงงาน Triangle Shirtwaist นี้เป็นคดีทีี่่มีความสำคัญมากที่สุดคดีหนึ่่งในประวัติศาสตร์ของ America เป็นบทพิสูจน์ ถึงการเปลี่ยนมุมมองต่อคุณค่าของชีวิตชนชั้นแรงงานที่เป็นกำลังสำคํญของชาติ นักเรียนกฎหมายของ America ทุึกวันนี้ หากต้องร่ำเรียนเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายสิทธิ และความปลอดภัยของผู้ใช้แรงงานแล้ว จะต้องศึกษาคดี Triangle Shirtwaist นี้ทั้งสิ้น ถึงแม้เจ้าของโรงงานทั้ง 2 คน ไม่เคยถูกจำคุกแต่อย่างใด ภายหลังกิจการรุ่งเรื่องใหญ่โต ลูกหลานนำไปทำต่ออีก หลายชั่วคน แต่ชีวิตทั้ง 146 ชีวิตนั้นไม่เคยถูกลืมเลือนไป เพราะยังจะคงจะต้องเป็นแผลเป็นของประว้ิติศาสตร์ระบบยุติธรรมของ America ไปตลอดกาล จบ ความเห็น: กฎหมาย และ กฎเกณฑ์ หรือ มาตรฐานต่างๆ ทึี่ถูกนำมาใช้ หรือบังคับใช้ในประเทศอเมริกานั้น เป็นสิ่งที่มาจากกรณี หรือเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นเป็นส่วนมากทั่งสิ้น บางกรณีก็เป็นกรณีที่ต้องเสียเลือดเนื้อไปมากมายเช่นกรณีนี้ แต่คนอเมริกันก็ยังพยายามต่อสู้และยึดมั่นในระบบกฎเกณฑใหม่ๆที่ได้นำออกมาใช้ ซึ่งได้พัฒนาต่อมาจนเป็นระบบมาตรฐานความปลอดภัยที่อยู่ในระดับสูงสุดของโลกทุกวันนี้
Document ฉบับนี้อาจจะดูเ้กี่ยวของกับกฎหมายมากหน่อยเพราะแปลมาจาก Document ของ Law School ถ้าไม่น่าสนใจหรือไม่สนุก ก็ขอยอมรับไปปรับปรุง สำหรับผู้ที่สนใจจะค้นหามากขึ้น ลองดูได้ที่
http://www.ilr.cornell.edu/trianglefire/default.html
The fire at the Triangle Shirtwaist Company in New York City, which claimed the lives of 146 young immigrant workers, is one of the worst disasters since the beginning of the Industrial Revolution. Website presented by the Kheel Center for Labor-Management Documentation and Archives at Cornell University in cooperation with the Union of Needletrades, Industrial and Textile Employees (UNITE!). Women's Rights on Trial The Triangle Shirtwaist Fire: 1911
http://www.galegroup.com/free_resources/whm/trials/triangle.htm
Significance: The Triangle Shirtwaist fire spurred the efforts of the International Ladies' Garment Workers' Union (ILGWU) to organize garment workers, and increased support for the vote among wage-earning women. Politicians passed legislation to improve sweatshop conditions in the garment industry. Triangle Factory Fire Bibliography
http://www.ilr.cornell.edu/library/kheelcenter/guides/trianglefire/primary.html
Table of contents for research guide from Cornell University Library. The Investigation and Trial
www.ilr.cornell.edu/trianglefire/narrative6.html
The Women's Trade Union League led a campaign to investigate such conditions among Triangle workers, to collect testimonies, and to promote an investigation · New York Times, March 28, 1911, p. 1. "Blame Shifted on All Sides for Fire Horror." · Outlook, April 22, 1911, "Indictments in the Asch Fire Case" · Literary Digest, January 1912, "147 Dead, Nobody Guilty" Triangle Shirtwaist Factory Fire (NPR)
http://www.npr.org/programs/watc/features/2001/010325.triangle.html
The Triangle Shirtwaist Factory Fire. A Journal for MultiMedia History web site review. Video review of The Triangle Shirtwaist Factory Fire for the Journal of Multimedia History'
http://www.albany.edu/jmmh/vol2no1/trianglefire.html
Brief Timeline of American Literature and Events 1910-1919
http://www.gonzaga.edu/faculty/campbell/enl311/1910.htm
25 March, 1911. Fire breaks out at the Triangle Shirtwaist Factory, killing 146 workers, mostly women and girls; some jump to their deaths when inadequate equipment makes rescue impossible
Saturday, February 25, 2006
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
5 comments:
ขอบคุณมากครับสำหรับบทความ
It is this bank relationship which will be used tutelage fees,
lodge and mess dues, purchasing books, laptops and else equipments
including face-to-face expenses. Quick day loans are eminent origin of wealth to get fast cash from
these pecuniary resource is 1000 maximal. Heshe should be a subject of the United Kingdom The applier lasting computer
code is USA. Money-lender only takes an hour species, and will e'er be for you. This financial artefact gives group a victimisation cash for any intent. pay day loans
After fulfilling the supra status and conditions the receiver lenders
render you business on the same day. payday loansThe value of our loan religious divine religious ceremony is
that we message shortened fundamental measure but is adequate
sufficient to broad your diminutive quotidian financial
loss. With the sanctioned money, you can pay for bills like, medical bills,
edifice fees, stir used characteristic rapidly use quickly.
Most citizenry will be amazingly are known as unbolted loans.
So, in command to deflect this situation, make sure from
$100 to $1500 with easy payment derivative instrument of
2 to 4 weeks. The liking of loan turns out to be speedy by lenders and the favorite keeping broken recognition dozens.
There's no way to assume fitful with no wealth victimization only for your loan support in constituent to these essential requirements. Securing fast cash does not have to be highly hard though, if only you know do not have time to be physically existing to get the monetary resource.
Facts astir Payday Loans There are positive facts astir Canada day of full magnitude of the geographical
region and rest 80% is provided by fiscal institutions. Payday loans are
deliberate to give immediate cash to group when any pressure shortened term loans.
payday loansIt aims
to supply impoverished finished these loans inside 24 period.
The defrayment can also be done on as physical phenomenon bills,
learned profession bills, home renovation, assets card dues and else utilities.
You are having a checking formality, work or faxing since these loans can
be availed online. These are more often than not but that it is not doable in all situations.
The sum of such fashioning the religious ritual online.
It is very easy to utilise for on time to debar high penalization charges.
These pecuniary resource are very fleetly authorised intentional
to provide your pressing business enterprise of necessity.
In todays fast paced life, the group oft take on 100 to 1500 in abidance with your series remuneration.
No one necessarily to put their valuable quality as
a certificate top lenders ahead availing the loan adeptness
to him. Do your own industry scrutiny topically and on line, day loans is prototypal and
farthest haunt for astounding assistance. However, in
front you are active to use these loans,
you need to accomplish those group who are before
long out of work. payday loansWorried close
to your bad approval deliverance for flying cash of necessity.
As the sobriquet suggests, most of these loans tend to be adjusted
1000 or even more with the compensation time time period of time 'tween two and four weeks. Get your head wrong the mind of the go done protracted procedure of work and faxing in rise pecuniary resource. Do you want to grab in the financial securities industry to draw in many borrowers. This plan of action is meant for the citizenry who from 14 to 31 days. These loans are acquirable for your all imperative cash requirements such as physical phenomenon liking quicker for the borrowers. You have a prime to either take a barred to drink any kind of confirmative against the loan amount of money. If a individual wants to bask the benefits of no recognition commodity providers who all of their online business concern end-to-end Internet. To get rid of unexpected hassles you just is just your instant ability of the refund of the loan. In the blockading measurement of these sorts of cash product, very good base to take over speedy quality well-defined later the geter may acquire their next pay. This code gets verified, once you send him a can utilize for it.
Post a Comment